🌿เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดพืชแหล่งโปรตีนและไขมันดีต่อสุขภาพที่หลายคนเชื่อว่าอาจช่วยลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรังบางชนิดได้ เช่น โรคอ้วนลงพุง โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น โดยส่วนที่นำมาบริโภคเป็นเนื้อในสุดของเมล็ด คนทั่วไปนิยมรับประทานเป็นของกินเล่นหรือใช้เป็นส่วนประกอบในเมนูอาหารและขนมหวานต่าง ๆ
เม็ดมะม่วงหิมพานต์อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย เช่น วิตามินเค วิตามินอี วิตามินบี 6 ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ตลอดจนสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง โดยส่วนอื่น ๆ ของต้นมะม่วงหิมพานต์ก็นำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน🌿
มีงานวิจัยขนาดใหญ่ที่ศึกษาผลการรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์และถั่วหลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยทดลองในอาสาสมัครชายหญิงที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ผลลัพธ์พบว่าการรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์และถั่วชนิดต่าง ๆ ประมาณ 84 กรัมขึ้นไป/สัปดาห์ อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วน อ้วนลงพุง และโรคเบาหวานอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่สัมพันธ์กับการเกิดโรคความดันโลหิตสูง ภาวะไขมันในเลือดสูง หรือระดับน้ำตาลในเลือดสูง ในขณะที่งานวิจัยขนาดใหญ่อีกชิ้นระบุว่าการรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์และถั่วอื่น ๆ อย่างน้อยวันละ 60 กรัม ช่วยลดระดับไขมันรวม ไขมันชนิดไม่ดี และไขมันไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้🌿
🌿อย่างไรก็ตาม งานวิจัยดังกล่าวศึกษาผลการรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์และถั่วอีกหลายชนิด จึงยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนยืนยันได้ว่าการรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์จะป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้โดยตรง ต้องศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมต่อไป และผู้บริโภคควรรับประทานแต่ในปริมาณพอดี เพราะเม็ดมะม่วงหิมพานต์มีแคลอรี่สูง หากรับประทานในปริมาณมากอาจส่งผลเสียได้เช่นกัน🌿
🌿ที่มา:https://www.pobpad.com/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A7